แชร์

โรคที่มากับ"ฤดูฝน"ในเด็ก

อัพเดทล่าสุด: 30 ก.ย. 2024
37 ผู้เข้าชม

มิถุนายนนี้ เราได้เข้าสู่ฤดูฝนอย่างเป็นทางการแล้ว ทราบได้จากปริมาณฝนที่ตกหนักมาตั้งแต่ช่วงปลายเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมานั้นเอง เราจึงต้องเตรียมรับมือกับสิ่งที่มาพร้อมฝนครั้งนี้ให้ดี

นอกจากการตากผ้าไม่แห้ง อับชื้น คือ ปัญหาที่เราต้องเจอเป็นอันดับต้นๆ ของหน้าฝนแล้วนั้น โรคที่มาพร้อมกับฝนก็น่ากลัวพอๆ กัน โดยเฉพาะโรคทีอาจจะเกิดกับลูกน้อยของเรา ยิ่งต้องระวังให้ดี

 

1.RSV
RSV หรือชื่อทางการแพทย์คือ Respiratory Syncytial Virus ดูเผินๆ ก็เหมือนไข้หวัดธรรมดา แต่เราไม่สามารถปล่อยให้หายเองได้เหมือนไข้หวัด เพราะปอดและหลอดลมจะติดเชื้อ ร้ายสุดคือ ระบบทางเดินหายใจล้มเหลวและเสียชีวิตลงได้

สาเหตุการเกิดโรค : RSV เป็นเชื้อไวรัส สามารถติดต่อได้ทางการสัมผัส สารคัดหลั่งต่างๆ หรือแม้แต่การจาม ก็ทำให้ติดเชื้อได้แล้ว

อาการของโรค : เริ่มแรกคล้ายไข้หวัดธรรมดา มีน้ำมูก ไอหรือไออย่างหนักจนอาเจียน จาม มีไข้ แต่ไข้อาจจะสูงถึง 39-40 ได้เลยทีเดียวหากปล่อยไว้นาน หายใจลำบากและมีเสียงวี๊ด ปาดซีดเขียวในบางราย

การรักษาและป้องกัน : ในปัจจุบันยังไม่มียารักษาโดยตรง แต่สามารถรักษาตามอาการ เช่น ให้ยาลดไข้ ลดน้ำมูก พ่นยาขยายหลอดลม ซึ่งใช้เวลาพักฟื้นประมาณ 1-2 สัปดาห์
*** ในปัจจุบันยังไม่มีวัคซีนที่ใช้ป้องกัน ไวรัส RSV รวมถึงไม่มียารักษาโดยเฉพาะ เมื่อเด็กได้รับไวรัสต้องรักษาตามอาการ
การป้องกันการติดเชื้อ RSV คือ การล้างมือให้เด็กเล็กบ่อย ๆ และผู้ที่อยู่ใกล้ชิดเด็กก็ต้องล้างมือบ่อย ๆ เช่นกัน และเมื่อมีเด็กป่วยให้แยกเด็กและแยกเครื่องใช้ของเด็กป่วยออกจากเด็กปกติ เพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อโรค

2. ไข้เลือดออก
ไข้เลือดออก เมื่อฝนตกหนัก ย่อมเกิดน้ำท่วมขังกลายเป็นเพาะพันธุ์ของเหล่ายุงตัวร้ายและโรคที่มากับยุง เช่น ไข้เลือดออกเป็นต้น
สาเหตุการเกิดโรค : การที่แหล่งน้ำใกล้ตัวท่วมขังและมีการแพร่พันธุ์ของยุง หรือลูกน้อยของเราได้รับเชื้อจากการยุงลาย
อาการของโรค : อ่อนเพลีย ปวดเมื่อยตามตัว บางรายมีไข้สูงเฉียบพลัน ไอ จาม มีน้ำมูก เลือดออกตามผิวหนัง หรือตามไรฟัน เลือดกำเดา เป็นต้น
การรักษาและป้องกัน : ไม่ปล่อยให้น้ำท่วมขังเพื่อกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย หากลูกน้อยได้รับเชื้อแล้วควรพาไปพบแพทย์ แม้จะยังไม่มียารักษาโรคนี้โดยตรง แต่เราสามารถรักษาตามอาการและเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดก็สามารถหายจากโรคไข้เลือดออกได้

3. มือเท้าปาก
มือเท้าปากโรคนี้มาจากกลุ่มเอนเทอโรไวรัส ผู้ป่วยที่พบมักอยู่ในวัยอนุบาล โดยเชื้อใช้ระยะเวลา 3 - 7 วัน
สาเหตุการเกิดโรค : เชื้อไวรัสสามารถติดได้ทางสารคัดหลั่งเช่น ละอองน้ำลายจากการไอ จาม น้ำมูก และสัมผัสแผล หรือ การดื่ม กิน อาหาร เครื่องดื่ม ที่มีเชื้อปนเปื้อนอยู่
อาการของโรค : มีไข้ น้ำมุก อาการคล้ายหวัด แต่จะมีแผลที่ปาก เบื่ออาหาร และเมื่อทิ้งเชื้อไว้ 3-7 วัน จะเริ่มมีผื่น ตุ่มแดง ตามมือ ขา และเท้า
การรักษาและป้องกัน : โรคนี้ยังไม่มีวัคซีนป้องกัน สิ่งที่เราสามารถป้องกันลูกน้อยจากโรคนี้คือ การให้เด็กรู้จักการล้างมืออย่างถูกวิธี ทำความสะอาดร่างกายอยู่เสมอ เพื่อกำจัดเชื้อโรคที่อาจติดมาจากการสัมผัสได้ หรือหากได้รับเชื้อแล้ว ต้องนำไปพบแพทย์โดยเร็วเพื่อเฝ้าระวังและรักษาตามอาการต่อไป

4. ไข้หวัดใหญ่
ไข้หวัดใหญ่ ความจริงแล้ว ไข้หวัดใหญ่นั้นไม่ได้มีเฉพาะในหน้าฝนเท่านั้น โรคนี้ใครๆ ก็เป็นได้ หากร่างกายอ่อนแอ หรือ อยู่ในสภาพแวดล้อมที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อ ซ้ำแล้วไข้หวัดใหญ่วิวัฒนาการตัวเองเป็นสายพันธุ์ใหม่ๆ ออกมาได้เรื่อยๆ อีกด้วย
สาเหตุการเกิดโรค : ไข้หวัดใหญ่ หรือ Influenza สามารถเข้าสู่ร่างกายของเราด้วยการดื่ม หรือ กินอาหารที่มีการปนเผื้อนของเชื้อไวรัสนี้ นอกจากนี้ การรับเชื้อจากละอองน้ำมูก การสัมผัสโดยตรงกับสารคัดหลั่งของผู้ป่วย ก็สามารถติดเชื้อได้เช่นกัน
อาการของโรค : อาการของไข้หวัดใหญ่นั้น ช่วงแรกจะคล้ายกับโรคไข้หวัดธรรมดา แต่จะมีไข้สูงกว่า บางรายที่ไข้สูงเฉียบพลัน อาจจะทำให้ช็อค และ เสียชีวิตได้เลยทีเดียว
การรักษาและป้องกัน : การป้องกันจากโรคไข้หวัดใหญ่นี้ สามารถทำได้โดยการล้างมือบ่อยๆ ระมัดระวังการสัมผัสสิ่งๆ ต่างที่อาจนำเชื้อเข้าร่างกายได้ หากได้รับเชื้อแล้ว ควรเฝ้าระวังไข้ที่สูงผิดปกติ และควรบุตรหลานพบแพทย์โดยด่วน เพื่อลดความเสี่ยงจากภาวะแทรกซ้อนจากโรคอื่นๆ ด้วย



อ้างอิงจาก : โรงพยาบาลเปาโล รังสิต


บทความที่เกี่ยวข้อง
นมแม่ 6 เดือนแรก สำคัญมากแค่ไหน?
ปัญหาเกิดจาก ?เด็กไทยกินนมแม่น้อย ที่สุดในโลกเทียบกับอัตราการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียว 6 เดือนแรกศรีลังกา 76% / กัมพูชา 74% / อินเดีย 46% / ฟิลิปปินส์ 34% / ไทย 12%
30 ก.ย. 2024
ผลไม้ยอดฮิตสำหรับลูกน้อย 6 เดือนขึ้นไป
อร่อยได้ทุกฤดู ผลไม้ยอดฮิตสำหรับลูกน้อย 6 เดือนขึ้นไปคำแนะนำ : การกินผลไม้ สำหรับลูกน้อยควรเริ่มจากน้ำผลไม้คั้นสดดีที่สุดควรหลีกเลี่ยง ผลไม้ที่มียางและมีเมล็ดเล็กๆ
30 ก.ย. 2024
3 เทคนิคชงนมอย่างไรไม่ให้ลูกท้องอืด?
สาเหตุที่ลูกท้องอืดเนื่องจากขวดนมบางชนิดอากาศสามารถเข้าไปอยู่ในขวดนม ซึ่งทำให้ลูกน้อยมีโอกาสท้องอืดได้ ด้วยเหตุนี้คุณแม่ไม่ควรนิ่งนอนใจ มาดูวิธีชงนมให้ลูกน้อยอย่างถูกวิธีกันคะ
19 ก.ย. 2024
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy